แม้จะเกษียณอายุจากการทำงานประจำ  แต่ “สมมิตร จันทรสุขสันต์”  หนุ่มใหญ่ วัย 61 ปี ยังมีไฟในการทำงานเต็มเปี่ยม   เลือกเริ่มต้นเส้นทางอาชีพใหม่อีกครั้ง  ในบทบาทเกษตรกร ทำฟาร์มปลูกดอกกุหลาบ ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก  โดยวางเป้าหมายสร้างรายได้ เพิ่มความมั่นคง  และที่สำคัญ เติมเต็มคุณภาพชีวิตที่ดีไม่ให้เหี่ยวเฉาเปล่าประโยชน์ไปกับกาลเวลา   สมมิตร เล่าว่า เดิมเคยทำงานประจำด้านการเงินอยู่ที่ จ.ชลบุรี  ก่อนจะเกษียณอายุจากงานประจำ  เริ่มวางแผนชีวิตหลังเกษียณไว้บ้าง เช่น เก็บออมเงิน และทรัพย์สินไว้รองรับการใช้ชีวิตในปั้นปลาย  ทว่า สาเหตุสำคัญที่ต้องตัดสินใจมาประกอบอาชีพใหม่หลังเกษียณอย่างจริงจัง  เกิดขึ้นเมื่อลูกชายคนเล็กล้มป่วยหนัก จำเป็นต้องนำเงินที่เก็บสะสมมาไปใช้จ่ายในการรักษาจำนวนมาก  เมื่อคำนวณแล้ว เงินที่เหลืออยู่ ไม่เพียงพอจะเลี้ยงดูตัวเองจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตอย่างแน่นอน      ดังนั้น  ตัดสินใจว่า หลังเกษียณอายุจากงานประจำแล้ว จะต้องเดินหน้าสร้างธุรกิจของตัวเอง  โดยเลือกจะทำฟาร์มปลูกดอกกุหลาบ ณ อ.แม่สอด จ.ตาก เนื่องจากมีพื้นฐานความชื่นชอบเกี่ยวกับการทำเกษตร ส่วนตัวสุขภาพยังแข็งแรง และประเมินปัจจัยรอบด้านแล้ว เอื้อจะช่วยให้สามารถประสบความสำเร็จในธุรกิจได้    “น้องชายของผม มีความเชี่ยวชาญด้านการทำเกษตร ขึ้นมาบุกเบิกธุรกิจเกษตรอยู่ที่ อ.แม่สอด หลายปีแล้ว  ประกอบกับยังมีที่ดินของญาติเหลือว่างอยู่ พร้อมจะให้มาทำการเกษตรได้ นอกจากนั้น ผมก็มองว่า อ.แม่สอด มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ  ในการเป็นแหล่งปลูกกุหลาบสำคัญของประเทศ  มีตลาดรองรับการซื้ออยู่แล้ว ผมเลยตัดสินใจจะขึ้นมาทำฟาร์มปลูกกุหลาบ    โดยมีน้องชายเป็นที่ปรึกษา รวมถึง ตัวผมเอง ก็หาความรู้เพิ่มเติม”   หนุ่มใหญ่ เล่าต่อว่า  ใช้เงินลงทุนเบื้องต้นในการสร้างธุรกิจฟาร์มกุหลาบประมาณ 2 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นทุนส่วนตัว และอีกส่วน ใช้บริการสินเชื่อจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  โดยเข้าไปติดต่อด้วยตัวเอง  ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ให้คำแนะนำ  “สินเชื่อสร้างอาชีพวัยเก๋า” จึงเกิดความสนใจ เพราะสินเชื่อนี้ เปิดโอกาสสำหรับผู้ประกอบการ สามารถกู้ได้ถึงอายุ 75 ปี ซึ่งเหมาะกับเขามาก  จึงตัดสินใจใช้บริการ ดำเนินการเตรียมเอกสารตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ขั้นตอนไม่ยุ่งยากมาก ไม่นานก็ได้รับอนุมัติสินเชื่อ   เกษตรกรหน้าใหม่วัยเก๋า  เล่าว่า ลงมือลงแรงสร้างฟาร์มกุหลาบ  ตั้งแต่การปรับพื้นที่ วางระบบน้ำ และลงต้นกุหลาบ  ปลูกบนพื้นที่ประมาณ 20 ไร่   มีช่องทางตลาด ตัดดอกกุหลาบสด ส่งขายตามตลาดค้าดอกไม้สำคัญต่างๆ เช่น  ปากคลองตลาด เป็นต้น เฉลี่ยประมาณวันละ 5,000 ดอก  และอนาคต ตั้งใจจะทดลองปลูกพืชผลไม้อื่นๆ เพื่อช่วยเปิดตลาดใหม่ และกำลังศึกษาการแปรรูปผลผลิต  นอกจากนั้น อยากจะขยายทำตลาดออนไลน์ด้วย    แม้จะเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ แต่ด้วยประสบการณ์จากการทำงานประจำมายาวนาน  สมมิตรนำมาประยุกต์ใช้ในการทำอาชีพเกษตร  เช่น  ทุกเช้าจะมีการประชุมกับลูกจ้างในไร่ เพื่อสรุปปัญหาของวันที่ผ่านมา นำมาแก้ไข รวมถึง แบ่งหน้าที่การทำงานประจำวัน ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จัดลำดับความสำคัญของการทำงาน  อะไรควรทำก่อนหรือทำทีหลัง  อย่างการใส่ปุ๋ย ถ้าไม่ถอนหญ้าพรวดดินเสียก่อน  ต้นกุหลาบก็จะไม่ได้รับประโยชน์จากปุ๋ยสูงสุด       “ชีวิตประจำวันของผมทุกวันนี้  จะตื่นตั้งแต่ตี 3-4  เดินทางออกจากบ้านไปไร่  เริ่มตั้งแต่สำรวจดูว่า มีอะไรในไร่ที่ยังไม่ได้ทำ หรือทำไม่เสร็จ  หรือจำเป็นต้องทำ  จากนั้น ประมาณ 8 โมง ก็จะเรียกคนงานในไร่  ซึ่งตอนนี้มี 8 คน  มาประชุมหารือ และแบ่งหน้าที่การทำงาน  หลังจากนั้น ผมก็จะทำงานต่างๆ  เช่น ทำบัญชี หรือออกไปติดต่อลูกค้า จนประมาณ 5 โมง ก็กลับบ้าน  เข้านอนประมาณ 3-4 ทุ่ม  ซึ่งการมาทำธุรกิจของตัวเอง สิ่งที่ผมคิดว่าแตกต่างจากการเป็นลูกจ้างมากที่สุด  คือ เราจะต้องคิดตลอดเวลา เพราะมันเป็นธุรกิจของเราเอง”  สมมิตร ระบุ   ก่อนจะถึงวันเกษียณอายุจากการทำงานประจำนั้น  สมมิตร ยอมรับตามตรงว่า เกิดความรู้สึกใจหายไม่น้อย  กลัวว่าตัวเองจะเหงา เศร้า ยิ่งถ้าต้องกินๆ นอนๆ ไปวันๆ ยิ่งกลัวว่า ตัวเองจะรู้สึกไร้ค่า  จนกลายเป็นความเครียด  ดังนั้น  ทุกวันนี้ เมื่อมองย้อนกลับไปถึงการตัดสินใจมาเป็นผู้ประกอบการใหม่ แม้จะอยู่ในวัยเกษียณแล้ว  สำหรับเขาถือว่า คุ้มค่า เพราะได้เปิดประสบการณ์ชีวิตใหม่หลายด้าน และที่สำคัญ ช่วยให้รู้สึกว่าตัวเองยังมีคุณค่า แม้จะอายุมากแล้วก็ตาม   และสำหรับคนอื่นๆ ที่กำลังก้าวสู่การเกษียณอายุจากการทำงานประจำ เขาบอกว่า  ควรจะมีการวางแผนชีวิตไว้ล่วงหน้า เช่น การเลือกลงทุนที่มีผลตอบแทนกลับมาเพียงพอ หรือมีเงินเก็บออมในระดับที่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในปั้นปลาย ส่วนใครที่จะเลือกมาเป็นผู้ประกอบใหม่  เรื่องวัยไม่ใช่อุปสรรคอย่างแน่นอน  หากมีการวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ รอบคอบ มีการบริหารจัดการที่ดี  นำประสบการณ์ที่ผ่านมาใช้ในการทำงานให้เกิดประโยชน์  เชื่อว่าช่วยให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจได้     “คนทำงานประจำมักบ่นว่าเครียด แต่ผมคิดว่า ความเครียดเป็นเรื่องปกติของคนทำงาน  ถ้าปล่อยว่างๆ ไม่ทำงาน ไม่เครียดเลย มันจะเหมือนชีวิตไม่มีค่า  ดังนั้น คนแก่ที่ลุกขึ้นมาทำงาน ผมคิดว่า มันทำให้เรามีเป้าหมายในชีวิตอีกครั้ง  ช่วยเค้นศักยภาพ ได้ใช้ความคิดเสมอ สำหรับคนสูงอายุ ถ้ามีช่องทาง มีโอกาส ประเมินธุรกิจที่จะทำแล้วว่าความเสี่ยงไม่มาก มีตลาด และร่างกายของเรายังพอทำไหว ผมก็เชียร์ว่า ควรจะมาเป็นผู้ประกอบการใหม่ในวัยเก๋ากันเถอะ” สมมิตร ทิ้งท้าย        : อ่านต่อได้ที่ https://www.smebank.co.th/news/detail/672