เจริญสติ Meditation

จิตพา คือ ข้อแรกในคำขวัญ

จิตพา (กิจพา) อากาศฟิน กินอิ่ม นอนหลับ ขับถ่ายดี มีเหงื่อ เอื้ออาทร


การเจริญสติ คือ อะไร

ศ.นพ.ประเวศ วะสี ให้พรปีใหม่แก่คนที่ไม่หยุดทำงาน (7 เมษายน 2566 มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ)

"การจะทำอะไรให้สำเร็จต้องมีความต่อเนื่องทางปัญญา (continuity of wisdom) การเดินทางระยะยาว (long march) ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ

อยากจะให้พรเนื่องในวันสงกรานต์ ขอให้ทุกคนมีความสุข สุขภาพดี และอายุยืน ที่อายุยืนเพื่อทำประโยชน์กับเพื่อนมนุษย์ได้มากขึ้น เหตุปัจจัยที่จะทำให้อายุยืนมี 3 อย่างคือ บริหารกาย บริหารจิต คิดเรื่องดีๆ และทำเรื่องดีๆ

บริหารกายต้องบริหารกล้ามเนื้อมัดเล็กทุกส่วนของร่างกาย การวิ่งบริหารกล้ามเนื้อใหญ่อย่างเดียวไม่พอ กล้ามเนื้อเล็กทั่วตัวต้องออกกำลังด้วย แล้วจะสบายตัวมาก จะทำให้สุขภาพดี

บริหารจิตคือเจริญสติ ในอเมริกาถ้าที่ไหนไม่มีศูนย์ meditation ถือว่าไม่ทันสมัย บางที่ใช้คำว่าเจริญสติแบบพุทธ เกิดขึ้นมากมาย มีการวิจัยดูสภาพสมอง ดูสารเคมี ทุกอย่างดีขึ้น เกิดความสุขที่ไม่เคยเจอมาก่อน ความดันลด หัวใจดีขึ้น ภูมิคุ้มกันดีขึ้น เปรียบเทียบคนที่เจริญสติกับไม่เจริญสตินี่ต่างกันเยอะเลย เจริญสติทำให้ภูมิคุ้มกันดี ไม่ค่อยเป็นโรค เป็นโรคอะไรก็หายง่าย แล้วก็เกิด harmony ในระบบต่างๆ  เวลาเจริญสติมันเป็นระบบจิต แต่มันทำให้วัตถุหรือสมองเปลี่ยนได้ เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนเจริญสติ 

ข้อสามง่ายที่สุดคือคิดเรื่องดีๆ คิดเพื่อเพื่อนมนุษย์ ทำเพื่อเพื่อนมนุษย์ เวลาคิดเพื่อเพื่อนมนุษย์ ทำเพื่อเพื่อนมนุษย์ มันเกิดปิติในตัว เกิดความสุขอยู่ในเนื้อในตัว ปิติในเนื้อในตัวทำให้สุขภาพดีและอายุยืน  

ใครเกษียณแล้วต้องทำงานต่อไปอย่างน้อยอีก 20 ปี  การเกษียณอายุเป็นสิ่งสมมุติ ไม่มีใครสามารถเกษียณจากการรับใช้มนุษยชาติได้ แปลว่าเลย 20 ปีไปอีก  ซึ่งสิ่งนี้ทำให้อายุยืน

สังเกตได้จากเมื่อก่อนนี้ที่ศิริราช อาจารย์ที่เกษียณอายุ 60 ปีแล้ววางมือไม่ทำอะไรเลย จะเสียชีวิตตอนอายุ 61, 62 ปี เพราะมันมี message มาบอกว่าในเมื่อไม่ต้องทำอะไรแล้วก็ไม่ต้องอยู่แล้ว มันจะมี message สื่อสารออกมา  อยากรู้รายละเอียดให้ศึกษาเรื่องควอนตัมฟิสิกส์ เป็นวิทยาศาสตร์ใหม่ที่พบว่าวิทยาศาสตร์เก่าใช้ไม่ได้เพราะมองอะไรแบบตายตัวและแยกส่วน แต่ควอนตัมทำให้ทุกอย่างเชื่อมโยงกันหมดตลอดเวลาและเร็วกว่าแสง  ทุกอย่างเชื่อมโยงไม่มีอะไรเอกเทศ มาตรงกับคำสอนทางพุทธเลยมีคนเขียนเรื่องควอนตัมกับอนัตตา และควอนตัมกับดอกบัว โดยดอกบัวหมายถึงพุทธศาสนา การที่เราสังเกต ผู้สังเกตกับผู้ถูกสังเกตไม่ได้แยกจากกัน ผู้ที่ถูกสังเกตจะทำตัวตามที่ผู้สังเกตอยากเห็น เช่น electron เป็นอนุภาคก็ได้ เป็นคลื่นก็ได้ ขณะเดียวกันถ้าเอาเครื่องมา detect มันจะเชื่อมต่อกัน มัน communicate กัน

ถ้าเรายังมีภารกิจอยู่มันก็ยังไม่ตาย ถ้าหมดภารกิจก็ไม่ต้องอยู่ ก็หมดชีวิตไปด้วย จึงบอกว่าให้ทำงานไปอายุจะยืน โดยอาศัยควอนตัมฟิสิกส์  การศึกษาของเราแยกกันเกินไป ฟิสิกส์ก็ฟิสิกส์ ชีวะก็ชีวะ สังคมก็สังคม ที่จริงฟิสิกส์เป็นพื้นฐานอยู่ในทุกเรื่อง แต่คนไม่รู้  อย่างนักชีววิทยาเชื่อทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วิน แต่พอนักฟิสิกส์เอาฟิสิกส์กับคณิตศาตร์เข้าไปวิเคราะห์เขาบอกว่าทฤษฎีของดาร์วินเป็นไปไม่ได้ เวลามันไม่พอที่ทำให้เกิด mutation ต้องหาคำอธิบายอื่น

 ใครอยากฟังเรื่องนี้ ที่มหาวิทยาลัยมหิดลมีศูนย์ฟิสิกส์ทฤษฎีและปรัชญาธรรมชาติ เขาเปิดตัวเมื่อวันที่ 20 มีนาคม แล้วเขามาเชิญผมไปพูด keynote ใครอยากฟังก็เข้าดึงวิดีโอมาฟังได้  เป็นการใช้ฟิสิกส์เข้ามามองปัญหาสังคม แล้วจะมองอะไรออกเยอะเลย เรื่องความเป็นธรรม เรื่อง complexity เรื่องอะไรต่างๆ รวมทั้งเรื่องศาสนา เรื่องความเป็นธรรม ลองเอาวิดีโอมาดู https://www.youtube.com/watch?v=Tnrfhlu7HAw ผมก็ยุให้เขาทำเป็นอาศรมความคิด แล้วมันจะเข้ามาปรับเรื่องการศึกษาใหม่ เอาฟิสิกส์เข้ามาบูรณาการการศึกษาทั้งหมดเลย

สรุปว่าการทำงานคือการปฏิบัติธรรม ทำให้อายุยืนด้วย ขอให้ทุกท่านอายุยืนด้วยการปฎิบัติธรรม ด้วยการทำงาน"


(ขอบคุณ พ.ญ.Piyawan Limpanyalert ที่ช่วยแปลงเสียงเป็นข้อความให้)

-ขอแชร์เพื่อเป็นประโยชน์กับคนทั้งโลกนะครับ

Visitors: 173,887