สมัครรับข่าวสาร
- กรอกอีเมล
เมื่อท่านส่งข้อมูลผ่านฟอร์ม จะถือว่าท่านยอมรับใน นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา

เกาะหมากไม่เพียงเป็นแหล่งท่องเที่ยวโลว์คาร์บอนระดับโลก

เกาะหมากไม่เพียงเป็นแหล่งท่องเที่ยวโลว์คาร์บอนระดับโลก แต่ยังคว้าอีกหนึ่งรางวัลจากงาน ITB Berlin ด้านการจัดการและการฟื้นฟู

เมื่อพูดถึงเกาะหมาก เรารู้กันดีว่าเป้นเกาะที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ สวยงาม สงบและเรียบง่ายในวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น เหมาะแก่การพักผ่อนจริงๆ แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่านี่คือต้นแบบแหล่งท่องเที่ยวโลว์คาร์บอนแห่งแรกของไทย และก้าวสู่มาตรฐานโลกแล้ว

เกาะใหญ่เป็นอันดับ 3 ของจ.ตราด เพิ่งคว้ารางวัลอันดับ 2 ของโลก “2023 GREEN DESTINATIONS STORY AWARDS” ด้านการจัดการและการฟื้นฟู ในงานมหกรรมส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ITB Berlin 2023 ที่ประเทศเยอรมนี เป็นรองเพียง NORMANDIE จากฝรั่งเศส และเอาชนะ OGUNI TOWN จากญี่ปุ่น ในอันดับท็อป 3

นับเป็นการคว้ารางวัลระดับโลกจาก Green Destinations Foundation ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรระดับโลกจากเนเธอร์แลนด์ สนับสนุนแหล่งท่องเที่ยว ธุรกิจและชุมชนเพื่อความยั่งยืน เป็นครั้งที่ 2 ต่อจากการได้รับเลือกให้เป็นสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนท็อป 100 ของโลกเมื่อปลายปีที่แล้ว

Low-carbon Destination แห่งแรกในเมืองไทยคือนโยบายที่ทางองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ร่วมกันขับเคลื่อนมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมาก็ไม่น่าแปลกใจ

แนวคิดนี้เริ่มขึ้นด้วยการลงนามปฏิญญาเกาะหมากคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Destination Declaration) เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2555 เพื่อร่วมกันดูแลเกาะหมากให้มีรูปแบบการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ชุมชนบนเกาะหมากถูกพัฒนาให้เป็นครอบครัวคาร์บอนต่ำ ผ่านโครงการมากมาย อาทิ การรณรงค์ให้ผู้ประกอบการร้านค้า โรงแรมรีสอร์ทบนเกาะซื้ออาหารจากคนท้องถิ่นเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนจากการขนส่ง การคัดแยกขยะในรูปแบบ Refuse Derived Fuel (RDF) เปลี่ยนจากวิธีเผาไปสู่การทำปุ๋ย หรือการใช้เรือพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น

แต่ที่น่าจะเข้าตาคณะกรรมการมากที่สุด คือตัวช่วยอย่าง ‘Koh Mak Low Carbon Calculator’ เครื่องมือออนไลน์สำหรับคำนวณการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากทุก ๆ ภาคส่วนในพื้นที่เกาะหมาก และการจัดทำธรรมนูญเกาะหมาก เพื่อใช้เป็นแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ัยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบ Circular Economy มีการคัดแยกและแปรรูปขยะจากการท่องเที่ยว โดยใช้นวัตกรรมต่างๆ เพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ พร้อมเป้าหมายได้รับการรับรองเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามเกณฑ์มาตรฐาน Green Destinations ของโลกภายในปี 2570

ใครอยากหนีฝุ่น PM 2.5 ที่ครอบคลุมไปแทบทุกภาคของประเทศในตอนนี้ไปสูดอากาศบริสุทธิ์บ้าง เกาะหมากน่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว

#ThailandLOVER #เกาะหมาก #ทะเลไทย

#เกาะหมากตราด #จังหวัดตราด #ที่เที่ยวจังหวัดตราด

สมัครรับข่าวสาร

เกาะหมากไม่เพียงเป็นแหล่งท่องเที่ยวโลว์คาร์บอนระดับโลก