ระบบเกษตรแปลงใหญ่...ที่ไม่เหมือนเดิม!!

ระบบเกษตรแปลงใหญ่...ที่ไม่เหมือนเดิม!!
(Mega Farm Enterprise)
ทุกท่านคงเคยได้ยินคำว่า
"คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย
ร่วมกันเราอยู่ แยกหมู่...เราเสียโอกาส"
จะดีแค่ไหน หากเรามีเพื่อนเกษตรกรมาร่วมกันพัฒนาสินค้าเกษตรชนิดเดียวกันไปพร้อมกัน เกษตรกรไทยมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ต้นทุนการผลิตลดลง เป็นหนี้น้อยลง และมีความสุขกับอาชีพเกษตรกรรม
รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนับสนุนและผลักดันแนวคิดให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันเป็นแปลงใหญ่เพื่อบริหารจัดการร่วมกันทั้งการผลิตและจำหน่าย โดยต้องมีตลาดรองรับที่แน่นอนทั้งในและต่างประเทศสอดคล้องกับนโยบายตลาดนำการผลิต เกษตรแปลงใหญ่ไม่ใช่เรื่องของพื้นที่ที่ติดกันเป็นขนาดใหญ่หรือเป็นผืนเดียวกันทั้งหมดเหมือนในสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป เพราะเกษตรกรไทยส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อยไม่มีพื้นที่มากเหมือนในประเทศอื่น แต่เราก็สามารถทำเกษตรแปลงใหญ่ได้ ขอเพียงปลูกพืชชนิดเดียวกัน เพราะเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของแปลงใหญ่ คือ
1. เพื่อลดต้นทุนโดยการประหยัดต่อขนาด
2. เพื่อเกิดการบริหารจัดการในฟาร์มอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง
3. เพื่อสร้างอำนาจต่อรองกับตลาด
4. เพื่อลดภาระความเสี่ยงจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ
5. เพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเจ้าของที่ดินที่ขาดแคลนแรงงานมาร่วมบริหารจัดการแบบกลุ่ม
การบริหารจัดการวิสาหกิจเกษตรแปลงใหญ่ ถือเป็นการบริหารงานแบบบูรณาการอย่างครบวงจร โดยใช้ศักยภาพจากทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกร โดยที่เกษตรกรยังคงเป็นเจ้าของที่ดิน ผ่านการขับเคลื่อนของ 3 ภาคส่วน ดังนี้
1) ภาครัฐ ได้แก่ หน่วยงานของภาครัฐ และหน่วยงานในพื้นที่ มีหน้าที่ให้คำปรึกษา คำแนะนำ และแนวทางการวางแผนการผลิตกับเกษตรกรในพื้นที่ ตั้งแต่
• กระบวนการเตรียมเมล็ดพันธุ์ ดิน และน้ำ
• กระบวนการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าเกษตร
• กระบวนการทางการตลาด เช่นการสร้างเรื่องราวของสินค้า (Story Telling) การออกแบบผลิตภัณฑ์(Packaging)
• การจัดจำหน่ายสู่ตลาด ผ่านระบบสหกรณ์ หรืแวิสาหกิจชุมชน และ
• การบริหารด้าสการเงิน (Financial)
2) ภาคเอกชน ได้แก่ สภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กลุ่มสานพลังประชารัฐมีบทบาทสำคัญในเรื่อง
• การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในพื้นที่ การเกษตรแบบแม่นยำ (Precision Agriculture) ทำให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น มีคุณภาพมากขึ้น
• เป็นผู้รับซื้อสินค้าเกษตรโดยตรง กับกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ในพื้นที่
• การจัดการด้านโลจิสติกส์ การขนส่งสินค้าเกษตรทั้งระบบ และ
• ผลักดันการเชื่อมโยงตลาดทั้งในและต่างประเทศ
3) ภาคเกษตรกร ได้แก่ สมาชิกเกษตรกรทุกคนในพื้นที่แปลงใหญ่ ที่ต้องสนับสนุนและมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้จัดการฟาร์ม ที่ต้องเป็น Smart Farmer ที่ได้รับการคัดเลือก โดยมีคุณลักษณะเด่นดังนี้
• มีความเป็นผู้นำ
• มีความรู้ด้านการเกษตร
• สามารถจัดการด้านการเงิน การบัญชี
และแผนธุรกิจและการค้าขาย
• รู้หลักบริหารจัดการภาพรวมภายในฟาร์ม เช่น การแบ่งงานในพื้นที่ การจัดทำปฏิทินการผลิต การประเมินความเสี่ยง เป็นต้น
ลักษณะและขนาดพื้นที่ ได้แก่
1. พื้นที่ สปก. ที่มอบให้กับเกษตรกร
2. พื้นที่ตามโครงการจัดที่ดินทำกินแห่งชาติ
3. พื้นที่ซึ่งเกษตรกรรวมตัวกันจัดตั้งเป็นสหกรณ์การเกษตรหรือวิสาหกิจชุมชน
4.พื้นที่ที่เกษตรกรรวมตัวกันทำเกษตรแปลงใหญ่อยู่แล้ว โดยแต่ละพื้นที่ต้องรวมกันไม่น้อยกว่า 1000 ไร่ขึ้นไป
สินค้าเกษตรในพื้นที่แปลงใหญ่ ปัจจุบันผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ต่างมุ่งเน้นคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าเกษตรเป็นสำคัญ ดังนั้น ในพื้นที่แปลงใหญ่ จะเปลี่ยนการปลูกพืช จากพืชเชิงเดี่ยวมาเป็นพืชผสมผสานตามแนวพระราชดําริ สนับสนุนเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ โดยนำความรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เครื่องมือและเครื่องจักรกลที่มีความแม่นยำเข้ามาใช้ เพื่อทดแทนการใช้แรงงาน รวมทั้งสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแหล่งที่มาของการผลิต
จากการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากการรวมกลุ่มแปลงใหญ่
• ในฤดูกาลที่ 1(ก.ค.- พ.ย.) ผลิตข้าวนาปี
• ในฤดูกาลที่ 2 (พ.ย. - มี.ค.) ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
• ในฤดูกาลที่ 3 (มี.ค. - มิ.ย.) ปลูกผักผสมผสาน
จากเดิมรายได้สุทธิของเกษตรกรต่อคนต่อวัน 345 บาท เปลี่ยนเป็น 501 บาท โดยได้กำไรเพิ่มขึ้น 156 บาท
การขับเคลื่อนโครงการ Mega Farm Enterprise ดำเนินการใน 2 ระดับดังนี้
1. ระดับกระทรวงฯ ผ่านคณะกรรมการอำนวยการโครงการ ทำหน้าที่วางแผนและกำหนดแนวทางการบริหารจัดการในรูปแบบวิสาหกิจแปลงใหญ่ พร้อมทั้งติดตามประเมินผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด
2 ระดับพื้นที่ ผ่านคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัด ทำหน้าที่ขับเคลื่อนโครงการ จัดทำแผนปฏิบัติการ และรายงานผลให้คณะทำงานระดับกระทรวงทราบ
โครงการดังกล่าว มุ่งหวังที่จะยกระดับมาตรฐานการทำการเกษตรกรรมไทย เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย เพิ่มอำนาจต่อรองขายผลผลิตได้เพิ่มขึ้น สร้างผลผลิตที่มีคุณภาพสูงสู่สังคมไทยและโลก โดยทุกภาคส่วนต้องร่วมมือและพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกัน เพื่อให้ประเทศไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนตลอดไป
สามารถรับชมวีดีทัศน์การบริหารจัดการวิสาหกิจเกษตรแปลงใหญ่ (Mega Farm Enterprise) เพิ่มเติมได้ที่นี่ https://bit.ly/30yRc8R
ขอบคุณข้อมูลจาก คุณกฤษฎา บุญราช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Visitors: 173,890