EP4 สิ่งประดิษฐ์ที่ 14 บ้านผู้สูงอายุ

การออกแบบสิ่งประดิษฐ์ที่ ๑๔ "จอมบึงฮิลล์ หมู่บ้านในฝัน" 

ความต้องการที่ยังไม่มีใครตอบสนอง หรือ Pain Point เป็นโจทย์หลักของเราที่จะนำมาแก้ และถ้าแก้สำเร็จ เราก็จะได้สิ่งประดิษฐ์หรือนวัตกรรมที่มีประโยชน์ใช้งานได้จริง

สูงวัยทั่วโลก ประสบปัญหาในวัยเกษียณจากการสะสมเงินทองไว้ใช้จ่ายไม่เพียงพอ รวมทั้ง สว.ไทย หลายล้านคน จาก 10 กว่าล้าน ก็ประสบปัญหาเดียวกัน

กลุ่มคนรวย มีบ้านใหญ่โต คนรับใช้ คนสวน คนขับรถพร้อม ก็คงไม่ต้องวางแผนอะไรในยามเกษียณนอกจากการแบ่งมรดก ส่วนกลุ่มที่ไม่มีอะไรเหลือ ก็คงต้องพึ่งกระทรวงพัฒนาสังคม ตามอัตถภาพ 

กลุ่มที่เหลือ เป็นกลุ่มที่ต้องมีการบริหารจัดการทางการเงินที่ดีพอ เพื่อ Utilize ทรัพยากรทั้งหมดที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในยามเกษียณเพื่อที่จะได้เสวยสุขในยามบั้นปลายแทนที่จะต้องทนทุกข์ทรมาน ซึ่งกลุ่มนี้มีเงินที่ต้องใช้อย่างเหมาะสมสำหรับปัจจัยสี่ที่จำเป็น ซึ่งก็คือ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค

อัตราขั้นต่ำที่พออยู่ได้ คือ ค่าอาหารต่อหัว ต่ำสุด มื้อละ 50.- วันละ 150.- บาท เดือนละ 4500.- ค่าสินค้าอุปโภคบริโภค 500 ค่าน้ำ ค่าไฟ เดือนละ 1000 ค่าโทรศัพท์อินเตอร์เน็ต 300 เครื่องนุ่งห่มเดือนละ 500.- ถ้าอยู่กัน ๒ตายาย ก็เดือนละ 10,000 กว่า รวมแล้วตกปีละนับแสน เมื่อคูณ 20 ปี ก็ต้องมีไม่น้อยกว่า 3-4 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมค่าที่พักกับบริการทางการแพทย์ในยามเจ็บป่วย

ซึ่งหากในปัจจุบันหลานมีอายุ 40 มีเวลาทำงานอีก 20 ปี ก็ต้องเก็บให้ได้เท่ากับที่ต้องใช้ในอีก 20 ปี หลังเกษียณ ซึ่งก็ถือว่ายากโขอยู่ และถ้าภรรยาเป็นแม่บ้านไม่มีรายได้ ก็ต้องออมเป็น 2 เท่า

ปัญหาสำหรับคนกลุ่มที่มีเงินสะสมไม่มาก คือ อยากมีความสุขยามบั้นปลายด้วยค่าใช้จ่ายที่พอรับไหว ซึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับที่อยู่อาศัยในแบบประหยัด คือ บ้านหลังแรก ที่เคยอยู่ในช่วงทำงาน เพราะใกล้ที่ทำงานของคนเมือง แต่ค่าครองชีพก็จะสูงกว่าบ้านนอก กับมลพิษทั้งทางอากาศ PM2.5 มลพิษทางเสียง และกลิ่นควัน หรือ ในยามชราที่เรานึกถึงคือบ้านพักคนชราบางแค ที่ต้องรอคิวกันหลายเดือนหรือหลายปี แต่ถ้าอยากได้คุณค่าชีวิตที่ดีกว่าตามฝันก็อาจเลือกการซื้อสิทธิพักอาศัย 30 ปี ที่ประหยัดกว่าการซื้อคอนโดหรือบ้านเวลเนส แต่ก็ยังถือว่าขาดคุณค่าของชีวิตไปบางอย่าง 


ความฝันวัยเกษียณ

"คนเมือง" ร้อยทั้งร้อยเบื่อกับการอยู่ในเมือง อยากออกไปชาร์จแบตในต่างจังหวัด มีพืชผักสวนครัวไม่ฉีดยาฆ่าแมลงที่ปลูกไว้กินเอง เลี้ยงเป็ดไก่ไว้กินไข่ เลี้ยงปลา ทั้งปลาสวยงามและปลาที่เป็นอาหาร เลี้ยงน้องหมาน้องแมว ปลูกทุเรียน มะม่วง ไม้ผล ทำสวน นั่งดื่มกาแฟหน้าบ้าน ทานอาหารออแกนิคส์ มองไปยังวิวทิวทัศน์นอกบ้านที่เป็นท้องนาท้องไร่ ภูเขา แม่น้ำ ลำธาร 

คงไม่มีใคร ฝันว่าจะไปนอนในโรงพยาบาลหรือเวลเนสเพื่อให้พยาบาลมาคอยดุให้กินยากับอาหารที่สุดแสนจะจืดชืด และมีเพื่อนที่มีอาการป่วยที่แตกตากกัน หรือก็คงไม่มีใครฝันว่าจะไปอยู่บ้านพักคนชราแน่

จากสมการ "ฝัน = ปัจจัย" งบน้อยก็สามารถทำตามฝันได้ถ้าพอเพียง งั้นเรามาร่วมสร้างฝันให้เป็นจริงกันเถอะ

ส่วนบริการ มีบุคลากรทางการแพทย์ หมอ หรือพยาบาลเอกชนมาให้การตรวจสุขภาพถึงที่ทุกปี มีร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ลานกีฬาและกิจกรรม สระว่ายน้ำจากุซซี่โอโซน นวดไทย นวดสปา ซาวน่าอิออนโอโซน ร้านอาหาร ครัวกลาง Workshop/คลังเครื่องมือช่าง แบบมีค่าใช้จ่ายแบบรายครั้งและแบบสมาชิก

 

สิ่งประดิษฐ์#14 โครงการ "จอมบึงฮิลล์ บ้านในฝัน" ช่วยตอบโจทย์นี้ได้

สุขภาพดี มีอนามัย รักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมท่องเที่ยวและสันทนาการ ทำให้คนมีความสุขได้ ซึ่งการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีถูกหมุนขึ้นด้วยลูกข่างสุขภาพ ได้แก่ จิตพา อากาศฟิน กินอิ่ม นอนหลับ ขับถ่ายดี มีเหงื่อ เอื้ออาทร การสร้างชุมชนอายุยืนยาวอย่างมีความสุขเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อนทั้งๆที่สามารถทำได้ไม่ยาก หมู่บ้านในฝัน ใช้ อาหาร ออกกำลังกาย ซาวน่าอิออนโอโซน สระว่ายน้ำจากุซซี่ การนวด ดนตรีบำบัด และสันทนาการต่างๆ มาสร้างเซลล์ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ให้มีอัตราการเกิดมากกว่าการตาย สุขภาพก็จะแข็งแรง

ด้านอนามัย โควิดสอนให้เรารู้ว่า ไวรัส ไม่สามารถฆ่าได้ด้วยยาและวัคซีนก็ยังไม่ใช่คำตอบ แต่สิ่งที่ต่อสู้กับเชื้อร้าย คือสุขภาพที่แข็งแรง เม็ดเลือดขาวคือพระเอกขี่ม้าขาวเสมอ แต่เมื่อสูงวัยขึ้น ภูมิคุ้มกันร่างกาย (อ็อกซิเจนสะสม) ลดลง ทำให้มีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ง่ายกว่า การออกแบบบ้านในยุคโควิดจึงต้องอาศัยคุณสมบัติที่เด่นที่มีมากมายของอิออนลบและโอโซน ซึ่งโอโซนคือหนึ่งในสถานะของอ็อกซิเจน มีประโยชน์มากมาย แบ่งออกได้เป็น 7 ข้อหลักๆ คือ ฆ่าเชื้อโรค ดับกลิ่น ฟอกสี กำจัดแมลง กำจัดยาฆ่าแมลง เสริมสุขภาพ และ ความงาม เราจึงประดิษฐ์บ้านปลอดเชื้อด้วยอิออนและโอโซนที่จะฆ่าเชื้อโรคทุกวันตามเวลาที่กำหนด กำจัดแมลง พาหะนำโรค เช่น แมลงสาบ หนู แมลงวัน ซึ่งก็คือบ้านที่ได้ยื่นจดอนุสิทธิบัตรไว้ในปี 2565 ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเอง


โครงการ หมู่บ้านในฝัน มี 3 โซน คือ Zone C โซนที่ดินเปล่า สำหรับการซื้อเก็บเพื่อสร้างบ้านในภายหลัง เป็นที่ดินที่อยู่ในรั้วเดียวกับ สนามกอล์ฟจอมบึงฮิลล์ที่เปิดดำเนินการมากว่า 30 ปีแล้ว ราคาที่ดินขึ้นทุกวันหากไม่ซื้ออาจหมดก่อน ยิ่งนานยิ่งไกลกรุงเทพ ถ้าไม่รีบซื้อ อาจต้องไปอยู่ไกลจากญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง 

โครงการ Zone C คือฝันที่มองหา? โซน C มีที่ดินขนาด 1-2 ไร่ ในราคาเริ่มต้นเพียงแปลงละ 1,800,000.- หรือ ตารางวาละ เพียง 4,500.- เท่านั้น (ที่ดินจัดสรร)

แต่หากท่านต้องการบ้านในฝันพร้อมที่ดิน Zone B ที่มีบ้านมีให้เลือกถึง 3 แบบ บนที่ดินขนาด 150 ตารางวา  ราคาที่ดินพัฒนาแล้ว ตารางวาละ 5,500 บาทหรือ 825,000.- เท่านั้น ซึ่งที่ดินขนาด 150 ตารางวาถึงครึ่งไร่ ใหญ่พอที่จะขยับขยายไปทำ โฮมสเตย์หรือพูลวิลล่าได้อย่างสบายๆ ซึ่งนอกจากรองรับนักกอล์ฟจากทั่วโลกแล้ว ยังสามารถรองรับนักท่องเทียวจากพัทยา และภูเก็ต ที่ต้องการเพิ่มบรรยากาศในการท่องเที่ยวในเชิง

Zone A อยู่ใกล้กับสโมสร และร้านค้า ด้วยที่ดินขนาด 100 ตารางวา แบบบ้าน 2 แบบ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.49 ล้านบาทเท่านั้น


ส่วนที่ดินข้างเคียงนั้น จะถูกนำมาพัฒนาเป็น Golf Resort เป็นโครงการลงทุนให้กับสมาชิกแบบ Member Club โดยมีนักกอล์ฟทั่วโลกมาใช้บริการหรือเป็นสมาชิก ซึ่งพร้อมที่จะให้บริการในอนาคต

โครงการ Golf Resort ประกอบไปด้วยบ้านที่ตกแต่งให้เป็นที่พักสำหรับนักกอล์ฟทั่วโลกที่จะมาพำนักระยะยาวและนักท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ทั้งเล่นกอล์ฟ ท่องเที่ยว ทานอาหาร ศึกษาวัฒนธรรม ซึ่งจะสามารถใช้บริการเป็นครั้งหรือซื้อสมาชิกกอล์ฟ นวด สปารวมถึงฟิตเนสยิมเพื่อออกกำลังกายได้ ซึ่งบริษัทฯอยู่ระหว่างการทำ MOU กับ RCI และ หน่วยงานดูแลผู้สูงอายุของประเทศญี่ปุ่น และเอเย่นต์กอล์ฟเกาหลี

ส่วนให้บริการของ Golf Resort ประกอบด้วย ลานแสดง สโมสร สระว่ายน้ำจากุซซี่โอโซน ซาวน่าอิออนโอโซน สปา นวด ร้านอาหาร สวนผลไม้ สวนกระท่อม สวนไม้ยืนต้น


เท่าที่เราได้พิจารณาตามหลักเศรษฐศาสตร์ที่ได้ร่ำเรียนมา ก็พอจะประเมินได้ว่า มีเพียง โครงการ "จอมบึงฮิลล์ หมู่บ้านในฝัน" เท่านั้น ที่คุ้มค่า สมราคา ได้อรรถประโยชน์ และ Gross Domestic Health หรือ GDH สูงสุด

Visitors: 173,886