EP2 ประเมินโครงการ

ขอบ่นเรื่องอนาคตของคนไทยซักเล็กน้อยนะ

ศักยภาพในการแข่งขันของประเทศไทยกับต่างประเทศดูจะน้อยลงเรื่อยๆ มีการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบคืบคลาน สินค้าจากจีนเข้ามาตีตลาดจนอุตสาหกรรมของคนไทยเริ่มเข้าตาจน เงินตราออกนอกประเทศไปกองอยู่ที่เดียว งานการที่พอจะแข่งขันด้วยค่าแรงที่เคยต่ำ ก็ถูกแย่งไปที่เวียตนาม กัมพูชา พม่า 

รัฐมองเห็นถึงปัญหา ต้องการให้คนไทยนำเทคโนโลยีมาเพิ่มผลผลิต แต่ลืมที่จะจ้างมันสมองระดับโลกมาทำงานเพราะค่าแรงแพง ไม่กล้าข้ามหัวคนเก่าคนแก่ เลยมากไปด้วยข้าราชการรุ่นดึกดำบรรพ์ที่ตกรุ่น แต่ยังไม่ถึงเวลาเกษียณ การแก้ปัญหาจึงทำแบบลวกๆ ลงไม่ลึกพอ ยามเกษียณขาดรายได้ รายจ่ายทุกบาททุกสตางค์จะต้องสมเหตุสมผล สมควรจ่ายจริงๆเท่านั้น ซึ่งการตามหาบ้านในฝัน จึงถือเป็นเรื่องที่ยากมาก ซึ่งการซื้อโดยมองมุมลงทุน ดูจะมีเหตุผลสุด คือ ในช่วงที่เรายังมีชีวิตอยู่ เราเลือกได้ว่าจะอยู่เองหรือให้เช่าเพื่อนำเงินมาใช้จ่าย ถ้าเงินไม่พอ ก็ยังสามารถขาให้ธนาคารเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายได้จนอายุ 80 แต่หากเราข้ามภพไปแล้ว บ้านในฝันของเราก็ยังเป็นมรดกให้ลูกหลานได้ คำถามคือ จะซื้อบ้านพร้อมที่ดิน หรือ ซื้อที่ดินแล้วปลูกบ้านเอง

ที่ดินตามต่างจังหวัดที่นำมาขาย มักไม่มีใครแสดงผังสี หรือ ผังเมือง เราจึงไม่รู้ว่า ที่ดินที่ซื้อมามีภาระผูกพันอย่างไร

ที่ดินประเภทชุมชน ที่ดินประเภทอุตสาหกรรมและคลังสินค้า ที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม ที่ดินประเภทอนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม ที่ดินประเภทอนุรักษ์ป่าไม้ ต่างมีภาระผูกพันกับที่ดินที่เราจะซื้อไม่เหมือนกัน จึงควรเลือกดูที่ผังสีเป็นหลัก

บ้านพักตากอากาศที่เราจะเลือกซื้อนั้น คงต้องอยู่ในโครงการที่มีธรรมชาติแบบเกษตร มีรปภ กล้องวงจรปิด และ ผู้ดูแลในเรื่องต่างๆ โดยที่เราจะไม่ซื้อที่ดินเปล่าแล้วสร้างเอง เพราะ การก่อสร้างบ้านดีๆซักหลัง ต้องมีวิศวกรควบคุมงาน มีสถาปนิกออกแบบบ้านให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม ต้องไปดูแล ไปจ่ายค่างวดงานซึ่งต้องมีความรู้ในการตรวจสอบ ซึ่งต้องใช้เวลาในการก่อสร้างและใช้เวลาในการไปตรวจดูความคืบหน้า ซึ่งเราเป็นคนกรุงเทพ การเดินทางออกไปดูแล ควบคุมงาน ในช่วงที่ยังไม่เกษียณ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้เลย จำเป็นต้องให้ผู้รับเหมามืออาชีพเป็นผู้จัดการงานทั้งหมดแทน ที่ดินเปล่าที่ไม่มีอะไรเลย ทั้งไฟฟ้า ประปา อินเตอร์เน็ต หรือแม้แต่รั้ว จะถูกตัดออกก่อนทั้งๆที่ราคาถูกกว่าครึ่ง ส่วนโครงการจัดสรรที่ดินที่ดีกว่าในด้านสาธารณูปโภคซึ่งมีราคาปานกลาง ก็จะมีปัญหาเรื่องการที่ไม่ตอบโจทย์ในมุมของผู้สูงอายุเช่นเคย ฉะนั้น โครงการที่จะนำมาเปรียบเทียบ คือ Well being กับโครงการบ้านในฝันและโคกหนองนาเดอะฟิวเจอร์ ที่เสนอสังคมของการอยู่ร่วมกันและการให้บริการ จึงเป็นทางเลือกลำดับต้นๆ

6 โครงการ Wellness สำหรับผู้สูงอายุที่เราเลือกมาพิจารณา แยกออกได้เป็น 2 แบบ คือ โครงการแบบขายขาด กับ โครงการที่ให้บริการ ซึ่งมีข้อดีข้อเสียต่างกัน

โครงการขายขาดหรือให้สิทธิในการอยู่อาศัย ดีตรงที่จ่ายค่าที่พักเป็นเงินก้อนไปแล้ว จึงจ่ายเพิ่มแค่ค่าส่วนกลาง กับ ค่าบริการทางการแพทย์ ทำให้ประหยัดกว่า ส่วนโครงการที่คิดค่าบริการรวมที่พัก ราคาก็จะสูง ทำให้ค่าใช้จ่ายรายเดือนสูงมาก จึงไม่เหมาะกับผู้เกษียณที่ไม่มีรายได้ หรือ รายได้น้อย

เราเลยนำเอาความฝันของเราเองมาออกแบบโครงการหมู่-บ้านในฝันและโคกหนองนาเดอะฟิวเจอร์ ซึ่งเกิดจากความฝันของเพื่อนๆที่จะเกษียณหลายๆคน ที่ต้องการใช้ชีวิตตามฝันทางด้านเกษตร แต่มี Pain Point จากโครงการที่ไม่ตอบโจทย์ ซึ่งเรากับเพื่อนๆทั้งหมด ยังไม่เคยเห็นเลยว่าจะมีใครฝันว่ายามชราจะไปอยู่ในโรงพยาบาลเลย 

เมื่อโครงการที่ประเมินทั้งหมดไม่ตอบโจทย์ แต่สิ่งที่ต้องการในยามเกษียณคือบ้านหลังที่ 2 ขนาดเล็กๆในต่างจังหวัดที่อากาศดี วิวพอได้ น้ำไม่ท่วม เดินทางจากกรุงเทพได้ในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ซึ่งมีค่าครองชีพที่ต่ำ และมีเพื่อนบ้านที่เป็นมิตร

ผมจึงต้องเลือกสร้างโครงการเอง โครงการที่ตอบโจทย์ผู้เกษียณที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุด โดยที่ในแต่ละวัน ผมจะทำงานเล็กๆน้อยๆ ไม่เกิน 6 ชั่วโมง แล้วลดลงเหลือ 4 ชั่วโมงในวัย 70 ทำกิจกรรม สันทนาการมากหน่อย โอ้เอ้เยอะหน่อย วันเสาร์อาทิตย์พาหลานเดินเที่ยวสถานที่ต่างๆ วันที่เหลือ ออกกำลังกาย เดินชมสวนในที่ ปั่นจักรยานรอบเมือง อบซาวน่า แช่สระโอโซน ปลูกพืชผักสวนครัว บอนไซ ต้นไม้ผล ทุเรียน พริกไทย ไฮโดรโปนิคส์ เลี้ยงหมาซัก 2 ตัว กับ ปลาคราฟซักฝูงนึง