ประเทศไทยสามารถเป็นประเทศมหาอำนาจทางด้านอาหารได้ ถ้าทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน

การผลิตอาหารไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อม เนื่องจาก ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ด้วย 2ดอมีน้ำ ด. แรก คือ ดิน ด. หลัง คือ แดด

ประเทศจีน เร่งพัฒนาอาชีพเกษตรในถิ่นธุรกันดาร เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางด้านอาหาร ซึ่งได้ทำการสร้างเขื่อนเพื่อกักน้ำไว้ใช้เองยามแล้ง และปล่อยออกในช่วงน้ำล้น อีกทั้งยังพัฒนาดิน จากทะเลทรายกลางเป็นแปลงปลูกผักได้ แต่สิ่งที่ประเทศจีนไม่สามารถสร้างได้คือ แสงแดด พลังงานจากธรรมชาติ ที่มีคุณค่าอนันต์

ในประเทศที่ยากจน และขาดแคลนด้านอาหาร เช่น ประเทศในทวีปอาฟริกา จำเป็นต้องได้รับอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกายก่อนโดยไม่เน้นถึงความอร่อย ซึ่งประเทศเหล่านี้ เชื่อว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่เชี่ยวชาญมากด้านการเกษตรแบบดั้งเดิม ทำให้ข้าว ทุเรียน มะม่วง และ ผลไม้อื่นๆ สามารถส่งออกได้เป็นอันดับต้นๆของโลก เนื่องจากเรามีดินดี แดดดี และ น้ำอุดม นั่นเอง

แต่เมื่อเราใช้น้ำไม่ถูกวิธี น้ำดิบจากธรรมชาติ ไม่ถูกกักเก็บไว้ในชั้นดิน ก็จะทำให้ดินแห้งแล้ง มีน้ำที่ปนเปื้อนสารเคมี ยาฆ่าแมลง หรือ บางครั้ง ก็มีน้ำท่วมเช่นปี 2554

ดิน เมื่อเราใช้ดินในการปลูกพืช ผัก ต้นไม้ มานาน ทำให้ธาตุอาหารในดินลดลง ดินจืดลง จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเคมี ซึ่งปุ๋ยสูตรยอดนิยมคงหนีไม่พ้น NPK ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โปรแตสเซียม ปุ๋ยเคมีเพียง 3ชนิด ไม่สามารถทดแทนปุ๋ยเดิมในดินได้ทั้งหมด ทำให้พืชอ่อนแอ เกิดโรค ผลผลิตไม่ดก เราก็แก้ด้วยการฉีดย่าฆ่าแมลง จนในที่สุด วงจรอุบาทว์ของอาชีพเกษตรก็ได้เริ่มขึ้น และพัฒนาจนเป็นปัญหาทั้งประเทศ เรามีปราชญ์ดิน ปราชญ์เกษตร กรมวิชาการเกษตร และผู้เชี่ยวชาญมากมายที่ได้ให้ความรู้กับเกษตรกรเพื่อให้ร่วมกันแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งกำลังไปในทางที่ดีขึ้นอย่างช้าๆ ดังนั้น  GSฟาร์มรีสอร์ท จึงได้ออกแบบนวัตกรรมการทำฟาร์มรูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องจ่ายค่าไฟ และ ค่าน้ำ แต่กลับสร้างผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถส่งออกผลผลิต ปุ๋ย หรือเครื่องจักรการเกษตรไปยังประเทศที่แล้งได้ กอปรกับเป็นการช่วยพัฒนาที่ดินจากที่รกร้างว่างเปล่าให้ได้ประโยชน์สูงสุด เสียภาษีบำรุงท้องถิ่นในอัตราต่ำสุด คือ ฟาร์มเกษตร พืชผัก หรือ เลี้ยงสัตว์ นั่นเอง